ถ้าพูดถึงการปีนเขา ที่ได้ชื่อว่า เป็นเขาที่สวยงาม และจองคิวยากเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ยังไงก็ต้องมีชื่อของ เขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี ติดอยู่เป็นหนึ่งในนั้นแน่ๆ
“เขาช้างเผือก” ชื่อทิวเขาที่หลายคนรู้จัก คุ้นหู จนถึงคุ้นตากับภาพของการปีนป่ายแนวหินแคบๆ ชื่อว่า “สันคมมีด” ที่ดูน่าหวาดเสียว!! แต่นั้นกลับไม่ได้ทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด … มันกลับทำให้ผู้คนมากมายตั้งเป้าหมาย ใฝ่ฝันที่อยากจะไปลองสัมผัสมันซักครั้งในชีวิต
ไม่อยู่ศุกร์จะมาเล่าการขั้นตอน และการเดินทางสู่ เขาช้างเผือก ให้ฟัง…
“เขาช้างเผือก” อยู่ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี มีความสูงประมาณ 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ระยะทางเดินจากจุดเริ่ม ประมาณ 8 กิโลเมตร
ขั้นตอนการจอง เขาช้างเผือก
- อุทยาน จะเปิดให้จองเป็นช่วง ส่วนมากจะเปิดให้จองช่วงเดือน พฤศจิกายน – มกราคม
- จะต้องโทรไปจองกับอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่เบอร์ 0-3451-0979 และ 09-8252-0359 ช่วงเวลาประมาณ 8:30 – 16:30 น. ไม่เว้นวันหยุดราชการ
- การจอง จะจองได้ Group ละไม่เกิน 6 คนเท่านั้น! โดยบนเขาจะจำกัดนักท่องเที่ยวต่อวัน ที่ 60 คน
- จองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 7 วัน นับจากวันที่โทร ไปถึงวันที่จะเดินทางขึ้นเขา
- นักท่องเที่ยวที่จองได้แล้ว จะต้องส่งข้อมูล ชื่อ, นามสกุล, เบอร์โทร, เลขบัตรประชาชน และสำเนาบัตรประชาชน ของทุกคนในกลุ่มให้อุทยาน ภายใน 1 วันหลังจองได้ ไปที่ Email :: [email protected]
** ถ้าอยากทราบข่าวการเปิดจองในปีต่างๆ ก็ติดตามข่าวสารได้จาก Facebook ของอุทยาน https://www.facebook.com/อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ-Thongphaphum-National-Park-660455174044774/ หรือที่ Page ไม่อยู่ศุกร์ ของเราก็ได้ https://www.facebook.com/FridayOuting
ลงทะเบียนเดินทางขึ้น เขาช้างเผือก
ในคืนก่อนวันเดินทางขึ้น แนะนำให้คุณเดินทางไปตั้งแต่เย็น อาจจะไปเที่ยว แล้วนอนพักที่บ้านอีต่องก่อนก็ได้ หรือจะไปกางเต็นท์ จอดรถนอน ที่จุดบริการนั่งท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิก่อนก็ได้ เพราะตอนเช้าตรู่ เราจะต้องลงทะเบียนเตรียมขึ้นเขา ที่จุดบริการนั่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ จุดนี้ก่อน
- เปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่ 6:00 – 8:00 น. มาช้าโดนตัดสิทธิ์
- เตรียมบัตรประชาชนของทุกคนให้พร้อม!!
- ช่วงโควิดก็ต้องเตรียมเอกสารการฉีดวัคซีน และผล ATK ด้วย แล้วแต่ประกาศข้อกำหนดในช่วงนั้นๆ
- ใครจะเช่าเต็นท์ จะเอาใบประกาศ ก็จัดการแจ้งตั้งแต่ที่นี่เลย
ค่าบริการ
ค่าใช้จ่ายที่เราต้องชำระให้อุทยาน มีดังนี้ ..
- ค่าเข้าอุทยาน คนละ 40 บาท / เด็ก 20 บาท
- ค่ารถยนต์ 30 บาท ต่อคัน / มอเตอร์ไซค์ 20 บาทต่อคัน
- ค่ากางเต็นท์ 30 บาท
- ลูกหาบ 1 คน แบกได้ไม่เกิน 30 กิโลกรัม .. ราคา 15,00 บาท (ถ้าเกิน คิดกิโลกรัมละ 30 บาท)
- ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1 คน ต่อนักท่องเที่ยว 12 คน ราคา 1,800 บาท (ค่าเจ้าหน้าที่ ทางอุทยานจะประเมินเก็บไปก่อน โดยมาหารด้วย จำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดที่เดินในวันนั้น ถ้าเกินเหลือ ก็จะคืนเงินให้ตอน ลงมารับใบประกาศที่จุดบริการ)
จัดการลูกหาบ / เตรียมตัวเดินทางขึ้นเขา
เมื่อลงทะเบียนที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้ว เราจะต้องเดินทางไปที่ หมู่บ้านอีต่อง ที่อยู่ห่างจากที่ทำการออกไปประมาณ 8 กิโลเมตร เพื่อจัดการเรื่องลูกหาบ อาหาร และพบกับเจ้าหน้าที่นำทาง โดยจะต้องจัดการลูกหาบ และกินอาหาร ให้เรียบร้อย แล้วไปพบกับเจ้าหน้าที่บริเวณจุดเริ่ม ก่อน 10:00 น.
เอารถไปจอดที่โรงเรียน หรือลานจอดเฮลิคอปเตอร์ .. แล้วเอาของมาให้ลูกหาบที่ศูนย์เตรียมพร้อมป้องกันภัย
เรียบร้อยแล้ว เดินลงมากินข้าวเช้า กินกาแฟกันก่อนในหมู่บ้าน และพร้อมกับเตรียมน้ำดื่ม หรืออาหารมื้อเที่ยง เผื่อหิวกลางทาง พกติดตัวไว้
พบเจ้าหน้าที่นำทาง / ตรวจเอกสาร
อิ่มอร่อยและพร้อมแล้ว ก็เดินลงมาเรื่อยๆตามทาง จะเจอจุดเริ่ม ป้ายช้างเผือก ที่ต้องพบกับเจ้าหน้าที่นำทาง เพื่อเช็คชื่อ ตรวจสอบเอกสารต่างๆให้เรียบร้อย ก่อนจะเริ่มเดิน .. ให้เราเตรียมบัตรประชาชน, บัตรคิว ใบเสร็จต่างๆ ที่เราจ่ายที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว มาแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจก่อน .. โดยทุกคนต้องมาที่จัดนี้ก่อน ก่อน 10:00 น. !!
จากนั้นก็เริ่มเดินเท้า จากหมู่บ้านไปตามทางอีกประมาณ 20 นาที จะเจอจุดตรวจอีกจุดนึง … จุดนี้จะมีการตรวจเอกสารอีกรอบ ** ดังนั้น เตรียมบัตรประชาชน, ใบเสร็จต่างๆ ที่เราจ่ายที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ติดตัวมาด้วย!
เริ่มเดิน…ขึ้นเขาช้างเผือกกัน!
ช่วงแรกๆจะ เดินพงหญ้า ในดงอ้อย พอจะมีมีต้นไม้ให้ร่มเงาพอหลบแดดได้บ้าง จุดนี้ยังไม่ค่อยเหนื่อย ไม่ค่อยร้อนเท่าไหร่ ถึงแม้จะมีขึ้นลงเนินอยู่บ้าง
แต่เดินหลุดมาซักพัก ก็จะมีปีนป่าย ดึงเชือก ขึ้นเขากันอยู่บ้าง ดังนั้นสิ่งที่ควรจะต้องเตรียมไปเลย คือถุงมือ … ซึ่งเอาจริงๆ ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก็มีขายนะ คู่ละ 20 บาท
เดินบนยอดเขา แดดก็จะร้อนๆ ถึงร้อนมากกกกก ไม่มีต้นไม้ให้หลบแดด ดังนั้นควรเตรียมชุดกันแดดมาให้ดี
เดินมาซักพัก ก็จะเริ่มเห็นยอดเขาเปิดตัวมาแล้ว
จุดนี้ถ่ายรูปสวยมาก เพราะเราจะยืนอยู่ต่อหน้าเขาช้างเผือกลูกใหญ่ๆทั้งลูก วิวจะอลังการมาก
ใครมาถึง ก็ต้องหยุดถ่ายรูปกันก่อน
ขยับมาอีกนิด เราก็จะเห็นจุดที่เราจะลงไปกางเต็นท์อยู่ไกลๆแล้ว เราก็เดินจากยอดเขาลูกช้าง ลงไปที่จุดกางเต็นท์
ประมาณบ่าย 2 โมง เราก็มาถึงจุดกางเต็นท์ เวลาจะช้าเร็ว ก็แล้วแต่คนเดิน โดยพี่ลูกหาบจะกางเต็นท์เตรียมให้เราเรียบร้อยเลย ถ้าจะให้เค้าจองจุดกางตรงไหรให้ ก็แจ้งเค้าตั้งแต่แรกไว้เลย.. เราก็พักผ่อน เก็บของเตรียมตัวสำหรับปีนสันคมมีด ไปยังยอดเขาตอนบ่ายต่อไป
ถ้าให้คิดระยะเวลาเดินทาง จากจุดเริ่มเดินบ้านอีต่อง มาถึงจุดกางเต็นท์ ก็ประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาไปประมาณ 4 ชั่วโมงได้
สังเกตุได้ว่าที่จุดกางเต็นท์ จะมีต้นไม้อยู่บ้าง แต่น้อยมาก.. ดังนั้นจึงควรมี Fly Sheet ซักอันเพื่อกางกันแดด สำหรับพักผ่อน และนั่งทำอาหารตอนกลางคืน
เตรียมตัวเดินขึ้นยอดเขาช้างเผือก / ปีนสันคมมีด
เวลาประมาณ 15:00 – 15:30 น. เจ้าหน้าที่ก็จะเรียกเรามารวมตัวกัน เพื่อเตรียมเดินขึ้นยอดเขาช้างเผือก ผ่านการปีนป่ายตามทางเล็กๆ ที่เป็นก้อนหิน บางจุดก็ค่อนข้างชัน และลื่น ดังนั้นให้เตรียมถุงมือ รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าเดินป่า และน้ำไปด้วย .. อย่าเอาไปแต่กล้องถ่ายรูปหล่ะ
ปีนมาได้ซักพัก ก็จะมาเจอสันคมมีดแล้ว จุดนี้จะติดหน่อย เพราะต้องค่อยๆขึ้นทีละคน
การปีนสันคมมีด ต้องใช้ 2 มือช่วยกันในการดึงเชือก และจะมีเจ้าหน้าที่คอยบอก คอย Safety ให้เราอยู่ เราควรเก็บกล้องให้แน่นหนา อย่าถือไว้ หรือปล่อยให้เกะกะ หรือจะฝากเจ้าหน้าที่ หรือถ้าเป็นพวก Go Pro ก็ฝากเจ้าหน้าที่ช่วยถ่ายให้เราได้ เค้าเข้าใจ
เลยสันคมมีดมา .. เราก็จะต้องมาเดินขึ้นยอดของเขาช้างเผือกแล้ว ซึ่งทางเดินเป็นเส้นตรง ขึ้นไปสู่ยอดเขาเลย สวยมากกกก
เมือมาถึงยอดเขาช้างเผือก ก็ถ่ายรูป ชมวิว พักผ่อนกันตามสบาย
เวลาประมาณ 17:00 – 17:30 น. เจ้าหน้าที่จะประกาศ ให้เราเดินทางลง กลับไปที่จุดกางเต็นท์ เราไม่สามารถอยู่ที่จุดนี้จนพระอาทิตย์ตกดินได้ เพราะเดี๋ยวขากลับ เราต้องเดินบนสันเขา ปีนหิน และสันคมมีดกลับลงไป ถ้าลงในช่วงมืด จะอันตรายมาก
แต่ข้อแนะนำเล็กๆก็คือ ขากลับนี่แหละจะเป็น Hilight อีกจุดหนึ่งของการมาเขาช้างเผือก เพราะตอนเรากลับลง พระอาทิตย์ก็จะค่อยๆตก และส่งแสงสีส้ม สีแดงออกมา ทำให้เดินบนยอดเขา ถ่ายรูปแล้วสวยมาก พวกเราเลยลงเป้นกลุ่มท้ายๆหน่อย
และเราก็โชคดีมากๆ ที่วันนี้ฟ้าระเบิด ตอนเดินลงมา ฝ้าแดงฉาน และเห็นไข่แดง พระอาทิตย์ตกดวงกลมเลย
และแล้ว เราก็ถึงเต็นท์โดยสวัสดิภาพ จบการปีนสันคมมีดในวันนี้ .. ก็เตรียมตัวทำอาหาร เข้านอน พักผ่อน เพื่อที่จะตื่นแต่เช้า มาจิบกาแฟ ชมพระอาทิตย์ขึ้นกันอีกซักหน่อย ถ้าไปช่วงหน้าหนาว โชคดีเราก็จะได้เจอหมอกปกคลุมเขาสวยๆอีกด้วย
เดินทางลงจากเขา / ไปรับใบประกาศที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
หลังจากอิ่มเอมกับบรรยากาศยามเช้าแล้ว ก็เตรียมเก็บของเดินลงจากเขาได้เลย .. พี่ลูกหาบจะมาช่วยเก็บเต็นท์และของที่จะหาบกลับลงไป … ปกติเค้าจะให้เราลงเช้าหน่อย อาจจะลงตั้งแต่ 8:30 เลย เพราะพี่ลูกหาบจะได้ลงไปรับนักท่องเที่ยวชุดใหม่ ที่กำลังจะเข้ามาในวันนี้
เมื่อเดินมาถึงที่หมู่บ้านอีต่อง เราก็ไปรับของที่ลูกหาบเอาลงมาให้ ที่จุดเดิม ตอนขึ้นไป .. เสร็จแล้วก็ไปอาบน้ำอาบท่า และเข้าไปรับใบประกาศ แสดงว่าเราได้พิชิตเขาช้างเผือกมาแล้ว! ได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ที่เรามาลงทะเบียนในวันแรก …. ถือเป็นอันจบทริปการ “ปีนเขาช้างเผือก” ของเรา
ถ้าใครอยากจะลองไปพิชิต เขาช้างเผือกซักครั้ง แต่ยังโทรไม่ติด ก็ไม่ต้องเสียใจไปค่อยๆโทร โอกาสมันจะต้องมาถึงเราซักวันแหละ ..
:: ข้อมูล ::
อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
- Map : https://goo.gl/maps/CSLXYWe497bJxpnMA
- Facebook : https://www.facebook.com/อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ-Thongphaphum-National-Park-
- เบอร์โทร 0-3451-0979 และ 09-8252-0359
ขอให้คุณโชคดี และสนุกกับการท่องเที่ยวธรรมชาติครับ …
Comments