ตามกำหนดการแล้ว วันนี้จะเป็นวันที่เราจะไปเที่ยวตามวัด วัด วัด แล้วก็วัด มาดูกันว่า TalkaTrip จะพาไปวัดไหนบ้างวันนี้ครับ
25 มีนาคม 2561 : เที่ยวญี่ปุ่น 2018 –
วัดแรกที่ไปคือ Hōkoku-ji (วัดโฮโคคุจิ) วัดนี้มีจุดเด่นที่สวนไผ่ครับ
วัดโฮโคคุจิ (Hōkoku-ji) เป็นวัดเก่าแกนิกายเซน เป็นที่รู้จักดีว่าเป็นวัดที่มีสวนไผ่ที่สวยงาม
ค่าเข้าชม:
แบบธรรมดา 200 เยน
แบบมีที่นั่งชมสวนไผ่ พร้อมชาเขียวราคา 500 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 9.00 – 16.00
แผนที่ https://goo.gl/maps/dxnN9JffrToeatsg9
ที่ที่สองที่เราไปก็คือ Tsurugaoka Hachimangū (ศาลเจ้าทสึรุงะโอกะฮาจิมังงู )
บริเวณศาลเจ้าไม่มีค่าเข้า
ส่วนของพิพิธภัณฑ์ ค่าเข้าอยู่ที่ 200 เยน
เวลาเปิด-ปิด: 5:00 – 21:00 น.
ช่วงตุลาคม – มีนาคม: 6:00 – 21:00 น.
แผนที่ https://goo.gl/maps/XJrZQvie4dadhaC78
ศาลเจ้านี้มีประตูแดงตั้งอยู่ใจกลางแยกของถนน ทางเดินเข้าวัดจะต้องข้ามสะพานเล็กๆแล้วจะมาเจอต้นไม้ทรงแปลกๆเหมือนเปลวไฟ ตามทางเดินแน่นอนก็จะต้องมีของขายตามทาง ทายซิว่าโดนอะไรมั้ย … ดูจากภาพได้เลยครับ
และเนื่องจากตั้งแต่เช้ามานี้ผมยังไม่ได้ดื่มกาแฟเลยสักแก้ว ตอนต้นๆทางเข้าผมแอบเห็นร้านกาแฟอยู่ร้านนึง เลยขอจัดสักหน่อย
เมื่อสมาชิกกลับมากันครบแล้ว ก็ถึงเวลามื้อเที่ยงกันล่ะ และด้วยความหิวนั่นเอง ทำให้เราต้องหาอะไรทานในบริเวณนั้น และเราก็มาเจอร้านเล็กๆที่อยู่ในซอย ถามว่าเล็กขนาดไหน เอาเป็นว่าครอบครัวผมเข้าไปก็นั่งกันเต็มร้านแล้วครับ เป็นร้านที่ดูแลด้วยตัวคนเดียวเลย เป็นธุรกิจครอบครัวแบบญี่ปุ่นโดยแท้
หลังจากมื้อเที่ยงแสนอร่อย เราก็ยังคงเดินเล่นกันต่อแบบไม่เหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด เอาจริงๆคือ ยังไม่ถึงเวลานัดรถน่ะครับ เลยไม่มีอะไรทำก็ต้องเดินไปเรื่อยๆ เข้าซอยนั้นซอยนี้
ศาลเจ้าถัดมาหลังจากท้องอิ่มก็คือ Sasuke Inari Shrine (ศาลเจ้าซาสุเกะ อินาริ)
ไม่เสียค่าเข้าชม
เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 – 17:00 น.
แผนที่ https://goo.gl/maps/X9ddUCBM3775f3Rk6
ศาลเจ้าซาสุเกะ อินาริ หรือ ศาลเจ้าจิ้งจอกแดงแห่งคามาคูระ เป็นศาลเจ้าในลัทธิดั้งเดิมของญี่ปุ่นอย่างลัทธิชินโต
ไปต่อกันที่วัด Kōtoku‐in (วัดโคโตคุอิน)
ค่าเข้าชม: ทั่วไป และนักเรียน (อายุ 13-18) 200 เยน
นักเรียน (อายุ 6-12) 150 เยน
เวลาเปิด-ปิด: เมษายน – กันยายน 8:00 น. – 17. 30 น
เดือนตุลาคมถึงมีนาคม 8:00 น. – 17.00 น.
แผนที่ https://goo.gl/maps/K8ki9uTD5JCi1Ss8A
จัดได้ว่าเป็นไฮไลท์ของเมืองคามาคุระ (Kamakura) เลยก็ว่าได้ เพราะไม่ว่าใครก็ต้องถ่ายภาพของพระพุทธรูปไดบุตสึ หรือที่เรียกกันติดปากว่าพระใหญ่ (Daibutsu) จากที่นี่ พระพุทธรูปองค์นี้สูง 13.35 เมตร หนักประมาณ 93 ตัน พระใหญ่ของคามาคุระนั้นนับว่าเป็นองค์พระที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองรองจากองค์พระที่วัดโทไดจิ (Todaiji) แห่ง นารา (ซึ่งผมยังไม่เคยไป แปะไว้ก่อนนะ)
อ่อ วัดนี้มีความเกี่ยวเนื่องกับประเทศไทยด้วยนะ ไม่เชื่อดูรูปด้านล่างนี้ได้เลย
และแล้วก็มาถึงวัดสุดท้ายของทริปนี้แล้วครับ นั่นคือวัด Hase‐dera (วัดฮาเซเดระ)
ค่าเข้าชม : 300 เยน
เวลาเปิด – ปิด : 8:00 – 17:30 น. และ
ในช่วงเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์ : 8:00 – 17:00 น.
แผนที่ https://goo.gl/maps/YXwFUqtP72wU9KNv9
วัดฮาเซเดระ หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า วัดเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิม 11 เศียรที่แกะสลักจากไม้ มีความสูงประมาณ 9.18 เมตร ซึ่งถ้าจำไม่ผิดเขาไม่ให้ถ่ายรูป
เป็นอันจบทริปไว้พระสำหรับวันนี้แล้วครับ ส่วนวันพรุ่งนี้จะเป็นวัน Free day ของผม เป็นวันที่ผมแยกเที่ยวกับครอบครัว เนื่องจากผมและภรรยาจะต้องบินกลับประเทศไทยก่อนครอบครัว 1 วัน เพราะไม่อยากลาหลายวันจนเกินไป พรุ่งนี้ผมก็เลยขอแยกออกไปหาซื้อของฝากกลับบ้านครับ
มาดูบทสรุป เที่ยวญี่ปุ่น 2018 แฟมิลี่ทริปครับผม วันที่ 3
Comments